ออกแบบสิ่งพิมพ์ได้อย่างมือโปร แค่เข้าใจเรื่อง RGB และ CMYK

 

 

โหมดสี RGB และ CMYK เป็นเรื่องเบสิคที่สำคัญมากในการออกแบบสิ่งพิมพ์ เพราะถ้ายิ่งเข้าใจถึงความแตกต่างของแต่ละโหมดสีมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยให้คุณสามารถรังสรรค์สีสันบนอาร์ตเวิร์คได้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้นเท่านั้น

 

 

 

 

RGB และ CMYK คือ ชื่อเรียกของโหมดสีที่ใช้ในการทำงานด้านการออกแบบกราฟิก โดยความแตกต่างของทั้งสองโหมดสีนี้ก็คือ RGB จะใช้สำหรับการทำสื่อดิจิทัล เช่น รูปภาพสำหรับโพสต์ลง Facebook, แบนเนอร์บนเว็บไซต์ หรือแค็ตตาล็อกสินค้าแบบออนไลน์ ในขณะที่ CMYK จะใช้สำหรับการทำสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น การทำโบรชัวร์ แผ่นพับ นามบัตร หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากความแตกต่างในด้านการนำไปใช้แล้ว วันนี้เราจะพาผู้ประกอบการทุกท่านมาทำความเข้าใจโหมดสีทั้งสองชนิดนี้ เพื่อที่จะสามารถนำไปปรับใช้กับชิ้นงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

 

 

RGB ย่อมาจาก Red (แดง) Green (เขียว) และ Blue (น้ำเงิน) แม่สีหลักในวิชาศิลปะที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นโหมดสีที่ใช้บนหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน ซึ่งโหมด RGB นั้นสามารถแสดงผลได้มากกว่า 16.7 ล้านเฉดสี ด้วยการนำสีหลักทั้ง 3 สีนี้ไปผสมผสานกันจนเกิดเป็นเฉดสีต่าง ๆ 

 

หลักการทำงานก็คือ โหมดสี RGB นั้นใช้แสงในการผสมสี เริ่มต้นจากหน้าจอสีดำสนิทและค่อย ๆ ผสมผสานด้วยแม่สีหลักทั้ง 3 สีจนได้สีที่ต้องการ ทำให้สีที่ได้มีความสว่างและสดใส เพราะเป็นสีที่มีต้นกำเนิดจากแสงนั่นเอง ยิ่งเราเพิ่มแสงเข้าไปเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ได้สีที่สดใสมากขึ้น

 

 

โหมดสี RGB เหมาะสำหรับงานดีไซน์ที่ใช้แสดงผลบนหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การทำคอนเทนต์ลงบน Social Media ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ Infographic หรือวิดีโอ, การออกแบบเว็บไซต์ ทั้งแบนเนอร์ โลโก้ และไอคอน รวมไปถึงการทำรูปภาพสำหรับใช้บน Applications ต่าง ๆ อีกด้วย 

 

CMYK ย่อมาจาก Cyan (ฟ้า), Magenta (สีม่วงแดง), Yellow (สีเหลือง) และ Key (สีดำ) ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสีดำจึงใช้ตัวย่อว่า K-Key เหตุผลก็คือเพื่อไม่ให้ซ้ำกับสี Blue นั่นเอง ซึ่งหลักการทำงานก็คือ เครื่องพิมพ์จะใช้หมึกสีทั้ง 4 เฉดเหล่านี้ในการสร้างรูปภาพขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากผืนกระดาษสีขาวอันว่างเปล่า และบรรจงผสมหมึกทั้ง 4 เฉดเข้าด้วยกันทีละชั้นจนกลายเป็นสีที่ต้องการ ซึ่งหากเราผสมสีทั้ง 4 เฉดนี้เข้าด้วยกันในปริมาณมาก ก็จะได้ออกมาเป็นสีดำสนิท นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชิ้นงานที่ถูกพิมพ์ลงบนกระดาษจึงมีสีที่เข้มกว่าสิ่งที่เราเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

 

โหมดสี CMYK เหมาะสำหรับการออกแบบสิ่งพิมพ์ทุกชนิด เช่น การทำนามบัตร ทำโบรชัวร์ ทำสติกเกอร์ ทำเมนูอาหาร ไปจนถึงสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่อย่างป้ายบิลบอร์ด โปสเตอร์ แผ่นป้ายไวนิล และยังสามารถใช้สำหรับการทำสินค้าอย่างเสื้อยืด หมวก กระเป๋า แม้กระทั่งการพิมพ์โลโก้บริษัทลงบนแก้วน้ำหรือปากกาก็จำเป็นที่จะต้องใช้โหมดสี CMYK เพื่อให้ได้งานที่คมชัดและมีคุณภาพ